การออกแบบที่เป็นมิตรกับนก

การลดอันตรายที่จะเกิดกับหมู่นกด้วยอาคารที่ผสานกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ

3 นาที

อาคารของ Gradient Canopy รายล้อมไปด้วยต้นไม้

อาคารของ Gradient Canopy รายล้อมไปด้วยต้นไม้ ภาพ: Iwan Baan สำหรับ Google

เป้าหมายหนึ่งของ Gradient Canopy คือการพัฒนาพื้นที่โครงการในแบบที่ผสานรวมกับภูมิทัศน์และสร้างความยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป สำหรับเรา "ความยืดหยุ่น" หมายถึงสถานที่ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพทางนิเวศวิทยาระยะยาวของภูมิภาค ซึ่งทั้งผู้คนและสัตว์ป่าสามารถเติบโตได้แม้ว่าสภาพภูมิอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปก็ตาม ที่ Gradient Canopy เราได้ทำงานเพื่อฟื้นฟูองค์ประกอบของระบบนิเวศในอดีตที่ให้การสนับสนุนที่สำคัญสำหรับสัตว์ป่า แต่เราเข้าใจว่ามีอันตรายสำหรับสัตว์ป่าในสภาพแวดล้อมเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนกท้องถิ่น เช่น นกร้องเพลง นกกระจอก นกฮัมมิ่งเบิร์ด และนกกระจิบ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราออกแบบ Gradient Canopy ด้วยกลยุทธ์มากมายที่เป็นมิตรกับนก

กระจกบนอาคารสามารถส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อประชากรนก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะออกแบบอาคาร ภูมิทัศน์ และแสงไฟที่ Gradient Canopy ให้สอดคล้องกับเครดิตการออกแบบของนวัตกรรม LEED ว่าด้วยการป้องกันการชนของนก เพื่อลดการเกิดเหตุนกชนอาคารให้น้อยที่สุด

เพื่อทำความเข้าใจวิธีที่ดีที่สุดในการนำองค์ประกอบการออกแบบที่ปลอดภัยสำหรับนกมาใช้ เราได้ทำงานร่วมกับ H.T. Harvey & Associates ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านนิเวศวิทยาเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและคำแนะนำชั้นแนวหน้าสำหรับอาคารที่ปลอดภัยสำหรับนก ในท้ายที่สุด เราได้ผสมผสานการออกแบบที่เป็นมิตรกับนกใน 2 วิธีหลักที่ Gradient Canopy โดยวิธีแรกคือการลดการสะท้อนแสงและความโปร่งใสในกระจกของอาคาร และวิธีที่ 2 คือการลดมลพิษทางแสงตอนกลางคืนของอาคารผ่านทางการแก้ปัญหาเรื่องแสงสว่างทั้งภายในและภายนอกอาคาร

กระจกเป็นสิ่งที่ทั้งนกและมนุษย์มองไม่เห็น แต่มนุษย์เรียนรู้ที่จะมองเห็นกระจกเมื่อเวลาผ่านไปผ่านสัญญาณทางภาพ เช่น กรอบหน้าต่างและการสะท้อนแสง ในทางกลับกัน นกมีการรับรู้ความลึกได้ไม่ดี และมักจะรับรู้การสะท้อนของภูมิทัศน์หรือท้องฟ้าว่าเป็นของจริง ความใสของกระจกยังสามารถทำให้เกิดการชนได้ถ้านกเห็นพืชพรรณผ่านมุมกระจกหรือต้นไม้ภายในอาคาร โดยพื้นฐานแล้ว ยิ่งกระจกของอาคารทำให้มองเห็นพืชพรรณหรือท้องฟ้าได้ชัดเจนมากขึ้นเท่าไร ไม่ว่าจะผ่านความโปร่งใสหรือการสะท้อนแสง โอกาสเกิดเหตุนกบินชนก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น

ที่ Gradient Canopy วิธีแก้ปัญหาของเราคือการจัดหากระจกที่มีดัชนีการสะท้อนแสงต่ำกว่า ความก้าวหน้าล่าสุดในเทคโนโลยีและการผลิตกระจกทำให้ง่ายขึ้นที่จะทำให้การสะท้อนแสงภายนอกต่ำลงโดยไม่กระทบต่อการรับความร้อนจากดวงอาทิตย์ ซึ่งช่วยให้เราจัดหากระจกที่ดีกว่าสำหรับหน้าต่างจำนวนมากและด้านหน้าอาคาร การใส่เครื่องหมายที่มองเห็นได้ไว้ใกล้ๆ กันบนกระจก เช่น สติกเกอร์หรือ "ลวดลาย" เซรามิกฝังตัว สามารถลดอัตราการตายของนกได้อย่างมาก เพราะนกจะรับรู้ว่าเครื่องหมายเหล่านี้เป็นสิ่งกีดขวางและจะไม่พยายามบินผ่าน เราเลือกลวดลายของเครื่องหมายที่หนาแน่นตามแนวทางล่าสุดขององค์กร American Bird Conservancy โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การป้องกันที่มากขึ้นแม้แต่กับนกฮัมมิ่งเบิร์ดที่ตัวเล็กที่สุดก็ตาม ที่ Gradient Canopy เราออกแบบลวดลายในพื้นที่ที่หันหน้าออกสู่สาธารณะเป็นปริศนาคำ โดยมีชื่อของนกท้องถิ่น 30 ชนิดใน 30 ภาษาพิมพ์ไว้ด้วยกันบนกระจก นับว่าเป็น "Easter Egg" ที่ช่วยเพิ่มความสนุกและการค้นพบให้กับองค์ประกอบการออกแบบที่ปลอดภัยสำหรับนกที่มีประโยชน์ใช้สอยสูงเช่นนี้ได้เป็นอย่างดี

ลวดลายบนกระจกกันนกที่ออกแบบโดยใช้นกท้องถิ่น 30 สายพันธุ์ใน 30 ภาษา

ลวดลายบนกระจกกันนกที่ออกแบบโดยใช้นกท้องถิ่น 30 สายพันธุ์ใน 30 ภาษา ภาพ: Iwan Baan สำหรับ Google

สุดท้าย เราออกแบบแสงไฟที่ Gradient Canopy โดยเฉพาะให้ลดการชนของนก ในเวลากลางคืน แสงจ้าอาจทำให้นกสับสนและรบกวนถิ่นที่อยู่อาศัย และเป็นอันตรายต่อประชากรนกที่ย้ายถิ่นในเวลากลางคืนโดยเฉพาะ เราลดมลพิษทางแสงที่ Gradient Canopy โดยไม่ส่องไฟขึ้นไปที่อาคารหรือพืชพรรณโดยรอบ และกำบังโคมไฟภายนอกเพื่อไม่ให้แสงสาดออกไปสู่ที่อยู่ตามธรรมชาติ นอกจากนั้น เรายังติดตั้งมู่ลี่ที่ปิดตอนกลางคืน และติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวในเวลากลางคืนสำหรับไฟส่องสว่างภายในทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าไฟจะเปิดเฉพาะเมื่อมีคนใช้พื้นที่อยู่เท่านั้น

เพื่อให้แน่ใจว่าองค์ประกอบการออกแบบที่ปลอดภัยสำหรับนกของเราที่ Gradient Canopy จะทำงานตามที่ตั้งใจไว้ และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความจำเป็น เรายังได้จัดทำแผนการติดตามเป็นเวลา 3 ปีเพื่อติดตามเหตุนกชนอาคารและโครงสร้างในพื้นที่ผ่านการเดินตรวจและการสังเกตการณ์รอบอาคารเป็นประจำ โดยรวมแล้ว เราหวังว่าการนำการออกแบบที่ปลอดภัยสำหรับนกมาใช้จะช่วยให้อาคารของเรากลมกลืนกับสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น ทำให้สัตว์ป่าและผู้คนสามารถอยู่ร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น